adyim.com SIAM BEAUTY HEALTH

ยินดีตอนรับ

ยินต้อนรับสู่บล๊อกที่จะรวมเรื่องราวและบทความดีๆ ที่มีประโยชน์และทันต่อเหตุการณ์ใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพและความงาม

Treatment สำหรับลดริ้วรอยใต้ดวงตา และรูขุมขนกระชับ‏

เมื่อพูดถึงริ้วรอยเล็กๆใต้ดวงตาและปัญหารูขุมขนกว้าง อาจเป็นปัญหาหนักใจสำหรับใครหลายๆคนไม่ใช่น้อย เพราะไม่ว่าจะลงรองพื้นยี่ห้อดีสักแค่ไหนก็ไม่สามารถทำให้ผิวดูเรียบเนียน ได้ ยิ่งโบ๊ะแป้งก็ยิ่งทำให้เกิดการอุดตันของผิวหนัง และเป็นสาเหตุให้ได้สิวอุดตันเป็นของแถมเพิ่มอีกด้วยค่ะ สำหรับตอนนี้แอดมินบิวตี้ก็ได้มีทรีทเม้นท์ใหม่ล่าสุดมานำเสนอ สำหรับใครที่มีปัญหา รูขุมขนกว้างเพราะหน้ามัน ใต้ดวงตามีริ้วรอยเล็กๆ รอยหลุมสิวลึกๆที่เกิดจากการกดสิว และฝ้า ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวไม่เรียบเนียน แต่งหน้าแล้วไม่เด้งเหมือนคนอื่นเขา นี่เลยค่ะแอดมินบิวตี้ขอนำเสนอเครื่องเลเซอร์ที่มีชื่อว่า "Fraxel Laser"


Fraxel Laser คือเลเซอร์ที่มีความยาวของคลื่น1410นาโนเมตร เป็นวิวัฒนาการจากประเทศสหรัฐอเมริกา ใช้รักษา จุดด่างดำ ริ้วรอยเล็กๆ หลุมสิว ฝ้า และรูขุมขนกว้าง เรียกว่าเป็นเลเซอร์ ที่ช่วยซ่อมแซมผิวหนังที่ปลอดภัยและทันสมัยที่สุด เพราะได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของประเทศสหรัฐอเมริกา(UF FDA)
การทำงานของ Fraxel Laser
Fraxel Laser สามารถปล่อยคลื่นแสงได้ลึกสุดถึงชั้น คอลลาเจน ประมาณ650ไมครอน จะปล่อยคลื่นแสงลงสู่ใต้ผิวหนังในช่วง Mid infrared ซึ่งเป็นจุดเล็กมากๆนับพันจุดต่อตารางเมตร ระดับความลึกของแสงที่พอดีและแม่นยำกับตำแหน่งที่ต้องการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ถือว่าเป็นนวัตกรรมใหม่ที่รักษาตรงจุด โดยผิวข้างเคียงไม่ถูกทำลาย จะทำให้ระหว่างการรักษาคนไข้รู้สึกเจ็บปวดน้อยมาก และเมื่อเลเซอร์สัมผัสกับผิวจะเกิดปรากฎการณ์ Fractional Photothermolysisขึ้น คืออธิบายง่ายๆนะคะ เซลล์เก่าจะถูกกระตุ้นให้ผลัดออก และหลุดลอกไปภายใน 1-2 สัปดาห์ และผิวหนังก็จะผลิตเซลล์ใหม่มาแทนที่
รุ่นของเครื่องFraxel Laser แบ่งออกได้ 4 รุ่น
1.Fraxel Rs Laser เป็นรุ่นแรกที่ผลิตขึ้นมา รุ่นนี้จึงต้องใช้เจลสีน้ำเงินทาหน้าก่อนทำเลเซอร์ หลังทำผิวจะแดงมาก และอาจมีริ้วรอยบาดเจ็บค่อนข้างมาก
2.Fraxel Restore 1550nm เป็นรุ่นที่สอง เน้นกระตุ้นการรักษาแผลเป็นและหลุมสิว
3.Fraxel Repair รุ่นนี้มีลำแสงเป็น Fractional Co2 สร้างขึ้นเพื่อรักษาหลุมสิวลึก และริ้วรอยที่ลึกมากๆ ไม่เหมาะกับคนเอเชีย เพราะอาจเกิดผลข้างเคียงจากความร้อนได้ง่าย หลังทำไปผิวหนังอาจมีเลือดซึม
4.Fraxel Refine รุ่นล่าสุด ที่มีการพัฒนาความยาวของคลื่นใหม่ 1410nm ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนมีการปล่อยแสงสู่ผิวหนังแบบ random จึงทำใหัไม่เกิดรอยช้ำนาน
การเตรียมตัวก่อนทำ
จะมีการทำความสะอาดบริเวณผิวหนังที่จะรักษาก่อน และทายาชาทิ้งไว้ประมาณ 45 นาที
หลังการรักษา อาการและวิธีการดูแลผิว
เมื่อ ได้รับการรักษาเรียบร้อย สิ่งแรกที่จะเห็นคือ ผิวหนังจะบริเวณที่รักษาจะมีสีชมพู คล้ายกับเวลาตากแดดจัด ประมาณ 2-3 วัน ระหว่างนี้แอดมินบิวตี้ขอแนะนำให้ใช้ครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของอโลเวล่า เน้นให้ความชุ่มชื้นมากๆ ทาหรือพอกก่อนนอนยิ่งดีค่ะ เพราะช่วงแรกผิวจะแห้งมาก อยู่ในช่วงการผลัดเซลล์ผิว เซลล์ผิวเก่าจะถูกผลัดออกภายใน 1-2 สัปดาห์ แต่ในระหว่างที่เซลล์ผิวเก่ายังไม่ผลัดให้หลุดออกไปนั้น ผิวหนังจะมีสีเข้มขึ้น เรียกว่า Bronzing ไม่ต้องตกใจนะคะ เป็นแค่ช่วง7-10 วันหลังจากรัับการรักษา
ผลลัพธ์ที่ได้
สำหรับ คนที่ไม่เคยทำ แอดมินบิวตี้บอกได้เลยค่ะว่า คุณจะรู้สึกได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำว่าผิวดูกระชับขึ้น ริ้วรอยเล็กๆจางลง ผิวเรียบเนียน ใส รูขุมขนก็เล็กลงด้วยค่ะ
ระยะเวลาที่ทำ กี่ครั้งจะเห็นผลชัดเจน
แนะ นำที่ 3-4 ครั้ง รับรองได้ค่ะว่าผิวหน้าของคุณจะเรียบเนียนอย่างชัดเจนจนคนข้างๆต้องทักแน่ นอน ระยะห่างในการทำก็ประมาณ3สัปดาห์ต่อครั้ง หรือขึ้นอยู่กับสภาพผิวหน้าของแต่ละบุคคล
อัตราค่าใช้จ่าย
อยู่ที่ 3500 up /ครั้ง
ถือ ว่าน่าสนใจมากๆเลยนะคะ สำหรับทรีทเม้นท์สร้างผิวใหม่Fraxel Laser นอกจากจะได้ผิวหน้าที่เรียบเนียน ไร้ริ้วรอยแล้วยังทำให้หลายๆคนสบายใจเรื่องความปลอดภัยของตัวเครื่อง และผลข้างเคียง ที่สำคัญราคาถือว่าไม่แพงมากจนเกินไป แต่ก็อย่าลืมที่แอดมินบิวตี้บอกนะคะว่าควรทำกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และควรศึกษาข้อมูลทุกครั้งก่อนเข้ารับการรักษา เพราะสมัยนี้ ของเลียนแบบ ผลิตออกมาเยอะมากค่ะ Fraxel Laser ของแท้ผลิตจากประเทศสหรัฐอเมริกาเท่านั้นนะคะ

ดึงหน้า ร้อยไหม (Thread Lift)


ThreadLift

 การดึงหน้าด้วยวิธีการร้อยไหม
การดึงหน้าร้อยไหมเพื่อยกกระชับใบหน้า Thread Lift หรือ TR Lift ทางเลือกใหม่ทางการแพทย์โดยไม่ต้องทำการผ่าตัด
สิ่งที่นอกเหนือจากการผ่าตัดดึงหน้าตามปกติแล้ว หรือการแก้ไขปัญหาผิวหนังหย่อนคล้อย ปัจจุบันมีทางเลือกใหม่โดยไม่ต้องเจ็บตัว และไม่ต้องใช้เวลาในการพักฟื้น สิ่งนั้นก็คือการยกกระชับใบหน้าด้วยไหมละลาย PDO (Polydioxanone)
ข้อดีของการดึงหน้า TR Lift
ปัจจุบันกำลังได้รับความนิยมกันทั่วไปมากขึ้น เนื่องจากใช้ระยะเวลาในการร้อยไหมประมาณ 30 นาที เห็นผลไว อาการเจ็บและบวมน้อยมาก
หลังจากทำการร้อยไหมแล้วจะ ไม่มีแผล โดยคนไข้ไม่ต้องพักฟื้นสามารถดำเนินกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ แต่อาจจะต้องแต่งหน้าช่วย เพื่อปิดรอยช้ำเล็ก ๆ จากการร้อยไหม
หลังจากการร้อยไหม เส้นไหมจะเข้าไปสร้าง คอลลาเจน บริเวณใต้ผิวหนัง ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวหนังบริเวณนั้น รู้สึกกระชับ ใบหน้าดูเปล่งปลั่งทันทีหลังจากการร้อยไหม
โดยปกติไหมชนิดนี้ ใช้ในวงการแพทย์มานานนับสิบปี เพื่อช่วยเย็บเนื้อเยื่อเกี่ยวพันหรือเส้นเลือดในร่างกาย โดยผ่านการ รับรองจากองค์การอาหารและยา (อย.) แล้วว่ามีความปลอดภัยสูง เหมาะสำหรับผู้ที่มีใบหน้าหย่อนคล้อยไม่มาก หรือสำหรับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ดูเรียว เป็นรูปตัว V Line หรือ U Shape

ประเภทของไหมที่ใช้ในการรักษา
ไหมละลาย PDO (Polydioxanone) เป็นไหมที่ร่างกายจะกำจัดออกไปจนหมด ภายในระยะเวลาประมาณ 6 เดือน โดยที่ไม่มีสิ่งแปลกปลอมตกค้างอยู่ในร่างกาย ซึ่งจะแตกต่างจากไหมยกกระชับใบหน้าชนิดอื่น ๆ ดังเช่น
ไหมแอปทอส (Aptos) ซึ่งมีลักษณะเป็นฟันปลา และเป็นไหมชนิดที่ไม่ละลาย หลังจากทำมักพบรอยช้ำนาน และต้องอาศัยแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง ซึ่งหากทำผิดวิธีอาจทำให้ใบหน้าไม่สมดุล และต้องมาผ่าตัดเพื่อเอาไหมออกด้วย
ไหมทอง (Gold Thread) ซึ่งจะประกอบไปด้วยทองคำบริสุทธิ์ และมีโลหะเป็นองค์ประกอบด้วย แต่เป็นไหมชนิดที่ไม่ละลาย แต่มีข้อดีก็คือ ไม่ต้องพักฟื้นนาน แต่ข้อเสียคือ มีค่าใช้จ่ายสูงมาก
หลังจากทำจะไม่สามารถทำเลเซอร์หรือนวดหน้าด้วยคลื่นวิทยุได้ เพราะไหมทองดูดซับความร้อน อาจจะทำให้ขาดในผิวหนังได้ และนอกจากนี้ คนไข้บางรายอาจเกิด อาการแพ้ทองคำบริสุทธิ์ ที่เป็นองค์ประกอบของไหมได้ หากเกิดปัญหา ก็จะต้องมาทำการผ่าตัดเพื่อเอาไหมออกไปด้วยเช่นกัน

ร้อยไหมด้วยไหมละลาย PDO
ไหมละลาย PDO จัดว่าเป็นไหมชนิดเดียวที่มีความปลอดภัยสูง และมีประสิทธิภาพสูงกว่าไหมละลายชนิดอื่น ๆ แต่ไหมละลาย Catgut ซึ่งมักพบรอยช้ำแดงได้นานกว่าถึง 20 วัน หรือไหมละลาย PGA (Polyglycolic Acid) หรือไหม Polyglactic ซึ่งมีโอกาสติดเชื้อได้ในช่วง 60 - 90 วันหลังร้อยไหม
เนื่องจากไหมชนิดนี้จะมีรูพรุนอยู่มาก ทำให้เกิดการติดเชื้อได้ง่ายกว่า และละลายหายไปเร็วภายใน 3 เดือน ทำให้ประสิทธิภาพในการกระตุ้นให้เกิดพังผืด หรือเส้นใยที่ดึงรั้งผิวเกิดเพียงช่วงสั้น ๆ เท่านั้น ขณะที่ ไหม PDO จะคงอยู่ได้นาน 1 - 3 ปี เลยที่เดียว

ขั้นตอนการดึงหน้า ร้อยไหม
1. แพทย์จะ ประเมินใบหน้า คนไข้ว่าควรร้อยไหมในตำแหน่งใดบ้าง และใช้จำนวนของไหมประมาณกี่เส้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัญหาผิวของคนไข้เองด้วย
2. โดยต่อมาแพทย์จะ ทายาชาร่วมกับการฉีดยาชา ในบางตำแหน่งก่อนจะที่จะทำการร้อยไหม
3. จากนั้นจะทำการร้อยไหมตามแนวที่ประมาณเอาไว้ โดยสอดเข็มเข้าไปจนสุดเพื่อปล่อยเส้นไหมไว้ในผิว ซึ่งเข็มจะมีลักษณะคล้ายปีกผีเสื้อ เพื่อให้การร้อยไหมง่ายและปลอดภัย จึงไม่ต้องกังวลว่าเข็มจะหลุดเข้าผิว เพราะมีปลายปีกผีเสื้อป้องกันไว้
4. ขณะที่ทำการร้อยไหมจะ รู้สึกเจ็บเล็กน้อยและอาจมีรอยแดงช้ำ ตามแนวที่ร้อยไหมได้บ้าง ซึ่งจะ หายไปเองภายใน 1 สัปดาห์ หลังทำ

หลังจากการดึงหน้า ร้อยไหม
ปกติแล้วหลังทำจะสังเกตุเห็นว่าผิวจะเริ่มตึงกระชับขึ้น และจะดีขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากร่างกายจะมีการกระตุ้นเซลล์ที่ สร้างเส้นใยคอลลาเจน
โดยจะสร้างคอลลาเจนมา พันรอบแนวเส้นไหม ที่ร้อยไว้ ทำให้ผิวมีการดึงรั้งมากขึ้น รวมทั้งตึงกระชับมากขึ้น ซึ่งจะเห็นผลได้ ชัดเจนในช่วง 1 - 2 เดือนหลังจากทำ แต่จะคง อยู่ได้นานราวประมาณ 1 - 3 ปี
โดยหลังจากทำไม่ควรทำเลเซอร์หรือทำการนวดคลึงใด ๆ กับใบหน้าประมาณ 2 สัปดาห์ และ หลีกเลี่ยงการนวดหน้าแรง ๆ ในตำแหน่งที่ร้อยไหมโดยเด็ดขาด เป็นระยะเวลา ประมาณ 2 เดือนหลังทำ

ยารักษาสิวแอคโนติน

ขอบคุณบทความดีๆจาก http://beautyhealth.bonlineshop.com/ << ติดตามเพิ่มเติมได้นะคะ like ให้กำลังใจด้วยนะคะ


ในวันนี้เราจะมาพูดถึงยารักษาสิวแอคโนติน (Acnotin) กันนะคะ สมัยนี้เวลาหนุ่มๆสาวๆ ที่มีปัญหาเรื่องสิวแล้วไปทำการรักษาตามคลินิค หรือสถารักษาดูแลผิวพรรณต่างๆ จะสังเกตได้ว่านอกจากคุณหมอจะจ่ายยาทาหรือแต้มสิวแล้ว ก็จะมียาสำหรับรับประทานมาให้ด้วยซึ่งก็คือยาแอคโนตินนั้นเอง ซึ่งบางคนก็ได้ชนิด 10 มิลลิกรัม หรือบางคนก็ได้รับชนิด 20 มิลลิกรัม ขึ้นอยู่กับแพทย์สั่ง ซึ่งยานี้ถือว่าเป็นยาอันตรายเหมือนกัน ซึ่ง อย. ได้ออกกฎมาไว้สำหรับยาตัวนี้ว่าเป็นยาอันตรายต้องแพทย์สั่งเท่านั้นถึงจะนำมารับประทานได้ บทความนี้เราจะมาพูดกันถึงยาแอคโนตินตัวนี้กันนะคะว่าเป็นอย่างไร

Acnotin ใช้รักษาสิวที่เป็นมากและรุนแรง สำหรับคนที่ดื้อยาปฏิชีวนะตัวอื่น และร่างกายไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยวิธีอื่นแล้ว ซึ่งผลข้างเคียงของยาตัวนี้ถือว่ามีค่อนข้างมากเลยทีเดียวค่ะ ในคนส่วนใหญ่ที่เพิ่งเริ่มใช้ยาตัวนี้ในช่วงแรกจะเกิดการเห่อของสิว ปากแตก ปากแห้ง ตาแห้ง จมูกแห้ง(ทำให้เกิดเลือดกำเดา) ผิวหนังแห้ง ผมร่วง ปวดศีรษะ  ผิวหนังไวต่อแสงแดด  บางรายที่ได้รับยานี้กลายเป็นโรคซึมเศร้า กลายเป็นคนหัวรุนแรง ก้าวร้าว  หรือเกิดความผิดปกติทางจิตขึ้นมาระหว่างการรับประทานยา หรือหลังการหยุดยาไม่นาน  บางรายเป็นมากถึงขนาดคิดฆ่าตัวตายก้อมีค่ะ 


อย่างไรก้อดีการรับประทานยาเพื่อรักษาสิวนั้น ไม่เป็นอันตราย หากอยู่ในความควบคุมและดูแลของแพทย์ 
จึงไม่ควรซื้อยามารับประทานเองค่ะ เพราะแพทย์จะดูแลปริมาณของยาที่รับประทานให้เหมาะกับปัญหาและแพทย์จะต้องติดตามอาการเพื่อดูการผลการตอบสนองต่อยาอย่างต่อเนื่องค่ะ

หากไม่เคยทานยายาปฏิชีวนะเพื่อรักษาสิวมาก่อนไม่แนะนำให้ทานยานี้เด็ดขาดค่ะ

การกินยาปฏิชีวนะเพื่อรักษาสิวนั้นต้องคำนึงถึงปริมาณยากับความเหมาะสมในแต่ล่ะคนหากได้รับยาที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เชื้อดื้อยา และรักษาไม่หายค่ะ


** สิ่งที่ต้องระวังมากที่สุด ** 
- ห้ามกิน ขณะมีครรภ์ โดยเฉพาะ ช่วงท้องได้ 3 อาทิตย์ เด็กจะพิการ 
- คุมกำเนิดก่อนกินยา 1 เดือน หลังหยุดยา ให้คุมกำเนิดต่ออีก 1 เดือน 
- ทดสอบการตั้งครรภ์ว่า ให้ผลลบ ก่อนกินยา 2 อาทิตย์ 
- สำหรับผู้ชายที่กินยาตัวนี้ แล้วมีลูก จะไม่มีผลอะไรกับลูก 
- ยาผ่านทางน้ำนมได้ จึงไม่ควรกินในรายที่ให้นมลูก 

ผลข้างเคียงของยา ผลข้างเคียงส่วนใหญ่ จะสัมพันธ์กับขนาดยาที่ให้ 
- ปากแห้ง พบเกือบทุกราย 
- เยื่อบุตามช่องทวารต่างๆ แห้ง 
- ผิวแห้ง ตาแห้ง ใส่คอนแทคเลนส์ไม่ได้ จมูกแห้งจนเลือดกำเดาออก เยื่อเมือกหลอดคอแห้ง ทำให้เสียงแหบ และมีอาการคัน ? 50% 
- ผมร่วง ผมน้อยลง สิวเห่อ ขนดก 
- ผิวหน้าร้อนแดง ผิวหนังอักเสบ ผิวคล้ำขึ้นและไวต่อแสง มีตุ่มคัน ตุ่มหนอง เนื้อรอบเล็บเป็นหนอง เล็บผิดรูปร่าง เพิ่มการสร้างเนื้อเยื่อที่ทำให้เกิดตุ่ม 
- ปวดกล้าม ปวดข้อ การสร้างกระดูกมากขึ้น เอ็นอักเสบ มีการจับของแคลเซี่ยมที่เส้นเอ็น มีการเปลี่ยนแปลงอื่นๆของกระดูก 
- พฤติกรรมผิดปกติ เครียด มีอาการทางจิตเวช พยายามฆ่าตัวตาย หรือฆ่าตัวตายในผู้ป่วยบางราย ปวดศีรษะ ความดันในกระโหลกศีรษะสูงขึ้น ชัก ผู้ป่วยจิตเวชควรปรึกษาจิตแพทย์ก่อนรับประทานยา 
- เห็นภาพเปลี่ยนไป กลัวแสง ลดการมองเห็นตอนกลางคืน ต้อกระจก กระจกตาอักเสบ การฟังบกพร่องในบางช่วงคลื่น 
- คลื่นไส้ ลำไส้อักเสบ มีเลือดออก ตับอ่อนอักเสบ ในรายไตรกลีเซอไรด์สูง ถ้ารุนแรงอาจเป็นอันตรายกับชีวิตได้ ตับอักเสบในบางราย 
- หลอดลมหดเกร็ง ในรายที่เป็นโรคหอบมาก่อน 
- มีการติดเชื้อกรัมบวก 
- เลือดมีเม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาวลดลง เกร็ดเลือดเพิ่มขึ้น อัตราการตกตะกอนของเลือดเพิ่มขึ้น ไขมันในเลือดสูงขึ้น แต่ไขมันตัวที่ดีกับร่างกายลดลง ทำให้มีความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจตีบเพิ่มขึ้น กรดยูริคในเลือดสูงขึ้น ปัสสาวะมีเม็ดเลือดขาวเพิ่มขึ้น มีเลือดและมีโปรตีนมากผิดปกติ 
- ควรหลีกเลี่ยงแสงแดด ไม่ควรใช้ยาทาลอกผิว หรือลอกสิวร่วมด้วย ใช้ยาทาสิวชนิดอ่อนร่วมด้วยได้ 
- ไม่ควรให้ร่วมกับยาวิตามินเอ และ ยาเตตร้าไซคลิน 

** ไม่ควรใช้ในหญิงมีครรภ์หรือให้นมบุตร โรคตับ โรคไต ได้วิตามินเอมากเกิน ไขมันในเลือดสูงและแพ้ยาตัวนี้ ใช้อย่างระมัดระวังในคนไข้เบาหวาน อ้วน พิษสุราเรื้อรัง และภาวะไขมันเผาผลาญผิดปกติ



การมาร์คหน้า

ขอบคุณบทความดีๆจาก http://beautyhealth.bonlineshop.com/ << ติดตามเพิ่มเติมได้นะคะ like ให้กำลังใจด้วยนะคะ

         วันนี้เราจะมาพูดถึงวิธีการมาร์คหน้ากันนะคะ ขอขอบคุณบทความดีๆ จากเว็บผู้จัดการ นะคะ
ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ความงามในท้องตลาดหลากหลายให้สาวๆ ได้สรรหามาประโคมกันมากมายจนใช้กันไม่หวาดไม่ไหว และถ้ายิ่งเห็นผลเร็วด้วยแล้ว มีเหรอสาวๆ จะพลาด อย่างการ มาส์คหน้า (Mask) ที่เวลานี้ได้รับความนิยมจากสาวๆ เป็นอย่างสูง เพราะเห็นผลลัพธ์ค่อนข้างไว แต่สาวๆ เคยรู้ไหมว่ามาส์คนั้นมีด้วยกันหลากหลายรูปแบบ และใช้กันถูกวิธีหรือเปล่า?

ภก.ดร.พงศกรพัฒน์ อรุโณทยานันท์
http://www.manager.co.th/images/blank.gif
       ภก.ดร.พงศกรพัฒน์ อรุโณทยานันท์ ผู้จัดการฝ่ายฝึกอบรมผลิตภัณฑ์และอาวียองซ์ อะคาเดมี จะมาเผยเคล็ดลับการใช้มาส์คหน้าที่ถูกต้อง เพื่อให้คนรักผิวได้ผลลัพธ์อย่างเต็มที่กัน “ปัจจุบันเรามักจะพบเห็นสาวๆ นิยมนำแผ่น มาส์คลักษณะคล้ายหน้ากากมาวางที่ใบหน้ากันนั้น เพราะการมาส์คหน้าเป็นการทำทรีทเมนท์แบบพิเศษ ที่จะช่วยล็อกไอน้ำไม่ให้ระเหยออกจากผิว เพราะผิวคนเรานั้นจะสูญเสียความชุ่มชื่นอยู่ตลอดเวลาโดยที่เราไม่รู้ตัว ผิวจึงประสบปัญหาผิวพรรณแห้งโรย หย่อนคล้อย เกิดริ้วรอยได้ง่าย การมาส์คหน้าจึงเป็นตัวช่วยให้ผิวชุ่มชื่นอิ่มเอิบอย่างรวดเร็ว เพราะในมาส์คจะอุดมไปด้วยสารบำรุงต่างๆ รวมถึงสารที่ช่วยปรับสภาพผิวให้แลดูกระจ่างใส เมื่อวางแผ่นมาส์คลงบนใบหน้า สารต่างๆ จึงแทรกซึมลงสู่ผิวได้ล้ำลึก การมาส์คหน้าจึงได้รับความนิยม เพราะเห็นผลที่รวดเร็วและชัดเจน แม้ว่าจะบำรุงผิวเป็นประจำอยู่แล้วก็ตาม
    
       เพื่อให้การมาส์คหน้าได้ผลอย่างเต็มประสิทธิภาพ สาวๆ ต้อง เลือกมาส์คให้ถูกแบบก่อน โดยเลือกจากคุณสมบัติที่ต้องการและการแก้ไขปัญหาผิวพรรณ อาทิ เพื่อการทำความสะอาดขจัดสิ่งสกปรก เพื่อยกกระชับผิว หรือเพื่อฟื้นบำรุงผิว เมื่อเลือกประเภทมาส์คได้แล้ว ก็ต้อง เข้าใจขั้นตอนการใช้ ด้วย เพราะมาส์คบางประเภทเป็นชนิดทาพอกทิ้งไว้ รอแห้งแล้วล้างออก และก็ไม่ควรทิ้งนานกว่าเวลาที่กำหนด เพราะจะทำให้ผิวแห้งไป หรือบางชนิดเป็นเนื้อเจล รอให้แห้งแล้วลอกออก เพื่อดูดซับสิ่งสกปรก ซึ่งไม่ควรลอกเกินสัปดาห์ 1-2 ครั้ง
http://www.manager.co.th/images/blank.gif
       ในขณะเดียวกัน มาส์คให้ถูกเวลา บางประเภทก็เหมาะสำหรับทำในช่วงเย็น เช่น มาส์คประเภทดูดซับสิ่งสกปรก เพื่อให้ผิวได้ผ่อนคลายหลังจากที่เผชิญมลภาวะมาตลอดทั้งวัน แต่หากเป็น มาส์คประเภทฟื้นบำรุง หรือยกกระชับ ควรทำในช่วงก่อนนอน เพื่อให้ผิวได้ฟื้นบำรุงในช่วงเวลาขณะนอนหลับ หรือหากต้องการให้ผิวหน้าดูอิ่มเอิบ สดใสก่อนงานสำคัญ ก็สามารถมาส์คหน้าก่อนการบำรุงหรือแต่งหน้าในเวลากลางวันได้
    
       ขั้นตอนการ เตรียมผิวก่อนการมาส์คหน้า ก็สำคัญ เพราะหากเป็นมาส์คเพื่อดูดซับความมันสิ่งสกปรก ก่อนมาส์คเพียงล้างหน้าด้วยโฟมก็เพียงพอ แต่หากเป็นมาส์คเพื่อการบำรุงฟื้นฟูผิวให้กระจ่างใส หรือ มาส์คเพื่อยกกระชับ ควรล้างหน้าให้สะอาด และปรับสภาพผิวด้วยโทนเนอร์ก่อนการมาส์คหน้า
    
       อีกหนึ่ง เทคนิคพิเศษที่ช่วยให้สารบำรุงในมาส์คทำงานได้ดียิ่งขึ้น ในวันแรกที่มาส์คหน้า หลังล้างหน้าด้วยโฟม ให้สครับผิวหน้าเพื่อขจัดเซลล์เสื่อมสภาพ จากนั้นเช็ดโทนเนอร์ตามต่อด้วยการมาส์คหน้า แต่หากต้องทำทรีทเมนท์ซ้ำในวันถัดไป ไม่ควรสครับผิวซ้ำอีก เพราะอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองได้ และเพื่อให้มาส์คบำรุงได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เวลาวางแผ่นหน้ากากมาส์ค ควรวางให้แนบสนิทไปกับผิวหน้า ใช้นิ้วมือลูบให้แนบสนิท และไม่ควรขยับเขยื้อนใบหน้า เพราะอาจเกิดช่องอากาศ ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของแผ่นมาส์คลดลง ซึ่งหากเป็นแผ่นมาส์คชนิดกระดาษ (Tissue Mask) จะไม่แนบสนิทกับผิว เพราะแผ่นมาส์คจะแห้งเร็วทำให้สารบำรุงระเหย และยังเกิดรอยย่นและช่องอากาศ แต่แผ่นมาส์คชนิดไบโอเซลลูโลส (Biocellulose Mask) ที่ได้รับการพัฒนาในรูปแบบคล้ายแผ่นเจล จะให้ความยืดหยุ่น แนบสนิท และกักเก็บความชุ่มชื่นได้ดีกว่า

ชนิดของสิว

ขอบคุณบทความดีๆจาก http://beautyhealth.bonlineshop.com/ << ติดตามเพิ่มเติมได้นะคะ like ให้กำลังใจด้วยนะคะ

         สวัสดีคะ วันนี้บล๊อกเราจะมาให้ความรู้เรื่อง ชนิด และประเภทของสิว ที่เกิดขึ้นได้ในทุกคน เพื่อที่จะได้ทราว่าเวลาเราเป็นสิว แล้วเราเป็นสิวชนิดไหน เพื่อที่จะได้ทำการรักษาอย่างถูกวิธี 

          1. สิวและหนอง (papulopustular acne) เป็นสิวที่มีการติดเชื้อจะเห็นเป็นลักษณะเป็นตุ่มและมีหนองอยู่เป็นสิวที่มีการติดเชื้อที่ดื้อยาลักษณะจะมีตุ่มหนองที่สิวการรักษาเหมือน papulonodular แต่อาจจะเปลี่ยนยารับประทานเป็น cotrimoxazole หรือ cephalosporinหรือ clindamycin หากตุ่มหนองอยู่ตื้นเมื่อหายจะไม่เกิดแผลเป็น

          2. สิวธรรมดาหัวดำ (open comedone) คำว่า comedone หมายถึง ต่อมขุมขนที่มีไขมันอุดตัน หากหัวสิวเปิดสู่ผิวหนังเรียกopen comedone ลักษณะเป็นสิวหัวเล็กๆเป็นสิวหัวดำ เรียก open comedone ส่วน comedone ที่ปลายไม่เปิด หรือเปิดเป็นรูเล็กมากเรียก close comedone ลักษณะเป็นตุ่มสีขาว ไม่ว่าจะเป็นสิวชนิดไหนก็ไม่ควรจะบีบออก ที่เห็นเป็นสีดำๆคือเนื้อเยื่อที่ตายแล้ว ไขมัน สิวหัวดำมิใช่เกิดจากความสกปรก ดังนั้นการอาบน้ำบ่อยๆหรือถูแรงๆอาจจะทำให้เกิดผลเสียต่อผิวหนัง การรักษา ผู้ป่วยที่หน้ามันให้ใช้สบู่ล้างหน้าหรืออาบน้ำวันละ 2 ครั้ง สบู่ที่ผสมยาปฏิชีวนะไม่มีประโยชน์และระคายต่อผิวหนัง อาจจะใช้ครีมที่มีส่วนผสมของ salicylic ทาเพื่อลอกเอาเซลล์ที่ตายออก สำหรับท่านที่ผมมันให้สระผมวันละครั้ง สำหรับเครื่องสำอางต้องเลือกชนิดที่ไม่มีไขมันเป็นส่วนประกอบ ใช้ยาละลายขุยเช่นretinoic acid 0.025,0.05,0.1% cream ทาก่อนนอน หลังทายาถ้ามีอาการะคายเคืองให้ทายาวันเว้นวัน ผิวที่ทายาไม่ควรถูกแสงเพราะจะทำให้ระคายเคืองมาก ระยะแรกของการใช้ยาโรคอาจจะเหอ หลังจากนั้น 2-3 สัปดาห์จึงจะดีขึ้น หรืออาจะใช้ 5% benzoyl peroxide[BP]ทา10-15นาทีแล้วล้างออก ถ้าไม่มีอาการแพ้ให้เพิ่มเป็น 1-2 ชั่วโมงแล้วจึงล้างออก ถ้าหัวสิวขนาดใหญ่ ให้ผ้าชุบน้ำอุ่นปิดบริเวณที่เป็นหลังจากนั้นใช้ Schamberg loop กดเอาสิวออก


          3. สิวหัวช้าง (papulonodular acne) คำว่า papule หมายถึง สิวที่เป็นตุ่มเล็กๆน้อยกว่า 5 มิลิเมตร ส่วน nodule เหมือน papuleแต่จะมีการอักเสบ และรอยโรคเป็นในผิวหนังระดับลึก เมื่อหายอาจจะเกิดแผลเป็น พวกนี้สิวจะมีลักษณะเป็นสิวเม็ดเล็กๆแดงๆ บางรายเป็นก้อนเล็กเมื่อคลำจะรู้สึกเหมือนกระดาษทราย การรักษา ผู้ป่วยที่หน้ามันให้ใช้สบู่ล้างหน้าบ่อยๆ สบู่ที่ผสมยาปฏิชีวนะไม่มีประโยชน์ ใช้ยาละลายขุยเช่น retinoic acid 0.025,0.05,0.1% cream ทาก่อนนอน ถ้ามีอาการะคายเคืองให้ทายาวันเว้นวัน ผิวที่ทายาไม่ควรถูกแสงเพราะจะทำให้ผิวบริเวณนั้นระคายเคืองมาก ระยะแรกของการใช้ยาโรคอาจจะเหอ หลังจากนั้น 2-3 สัปดาห์จึงจะดีขึ้น หรืออาจะใช้ 5%benzoyl peroxide[BP] ทา10-15นาทีแล้วล้างออก ถ้าไม่มีอาการแพ้ให้เพิ่มเป็น 1-2 ชั่วโมงแล้วจึงล้างออก หลังจากล้างเอา BP ออกให้ทา clindamycin 0.1% วันละ 2-3 ครั้ง ให้ยารับประทาน tetracyclin 250 mg ครั้งละ 2 เม็ดวันละ2 ครั้ง เมือดีขึ้นค่อยลดยาลงไม่ควรใช้ยานี้ในคนท้อง

          4. สิวหัวขาว (Close comedone) comedone ที่ปลายไม่เปิด หรือเปิดเป็นรูเล็กมากเรียก close comedone ลักษณะเป็นตุ่มสีขาว ส่วน open comedone ลักษณะเป็นสิวหัวเล็กๆเป็นสิวหัวดำ ทั้งสองชนิดไม่ควรบีบให้หัวสิวออก เพราะเนื้อเยื่ออาจจะช้ำทำให้เกิดการติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำ การรักษา ผู้ป่วยที่หน้ามันให้ใช้สบู่ล้างหน้าบ่อยๆ สบู่ที่ผสมยาปฏิชีวนะไม่มีประโยชน์ ใช้ยาละลายขุยเช่น retinoic acid0.025,0.05,0.1% cream ทาก่อนนอน ถ้ามีอาการระคายเคืองหลังจากทายาให้ทายาวันเว้นวัน ผิวที่ทายาไม่ควรถูกแสงเพราะจะทำให้ผิวหนังเกิดระคายเคืองมาก ระยะแรกของการใช้ยาสิวอาจจะเหอ หลังจากนั้น 2-3 สัปดาห์จึงจะดีขึ้น หรืออาจะใช้ 5% benzoyl peroxide [BP] ทาสิวทิ้งไว้10-15นาทีแล้วล้างออก ถ้าไม่มีอาการแพ้ให้เพิ่มเป็น 1-2 ชั่วโมงแล้วจึงล้างออก ถ้าหัวสิวขนาดใหญ่ ให้ผ้าชุบน้ำอุ่นปิดบริเวณที่เป็นหลังจากนั้นใช้ Schamberg loop กดเอาสิวออก

       แล้วไว้ทางบล๊อกเราจะนำบทความเกี่ยวกับการดูแล รักษาสิวแต่ละชนิดมาบอกกล่าวนะคะ อย่าลืมติดตามบล๊อกเราด้วยระคะ

ขอบคุณคะ

วิธีแก้หน้าไหม้จากแดด

ขอบคุณบทความดีๆจาก http://beautyhealth.bonlineshop.com/ << ติดตามเพิ่มเติมได้นะคะ like ให้กำลังใจด้วยนะคะ


เมื่อผิวปะทะแดดอย่างจัง หน้าดำ หมองคล้ำ ริ้วรอยหยาบกร้านก็ตามมาเป็นพรวน แต่ก่อนที่จะพึ่งคอร์สทรีตเมนต์ในสปา หรือเวียนเข้าออกศูนย์ความงามด้วยค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง เราลองดูวิธีแก้หน้าไหม้แดดในเบื้องต้นด้วยตัวเองได้ง่ายๆ แบบเร่งด่วนกันก่อนนะคะ

“ปัญหาที่ทุกคนเจอแม้จะระดมทาครีมกันแดด SPF 80 PA++ไปแล้ว แต่ก็ยังเอาไม่อยู่ แดดยิ่งแรงผิวก็ยิ่งคล้ำขึ้น แถมยังไม่พอยังรู้สึกแสบ! ร้อน! แดง! จนถึงขั้นผิวลอกเป็นแผ่นๆ! หากปล่อยไว้ไม่ดูแลอย่างเร่งด่วน จะทำให้เซลล์ผิวใหม่หลังการลอกกลายเป็นผิวหยาบกร้าน เป็นจุดหมองคล้ำ และมีริ้วรอยตามมา ให้ท่องไว้เสมอหลังโดนแดดอย่าช้าผิวสวยรอไม่ได้ ต้องทำการฟื้นฟูทันที ตามสเตปดังนี้


1. การปรับอุณหภูมิผิวหลังโดนแดดเผานั้นสำคัญ ให้ใช้ผ้าขนหนูที่แช่เย็นหรือชุบน้ำเย็นประคบตรงบริเวณที่โดนแดดเผา เน้นเป็นจุดๆ ทั่วใบหน้า โดยเฉพาะทีโซนจะเป็นพื้นที่ที่โดนแสงแดดทำร้ายมากที่สุด การทำเช่นนี้เพื่อให้อุณหภูมิของผิวหนังบริเวณผิวหน้ากลับมาเป็นปกติ ค่อยๆ ทำซ้ำ หลายๆ ครั้ง จนรู้สึกว่าผิวเย็นหายร้อน
2.เลี่ยงการถูด้วยสบู่ล้างหน้า ถ้าผิวบริเวณใบหน้าโดนแดดเผา ควรจะเลี่ยงการใช้สบู่หรือครีมล้างหน้าต่างๆ แล้วใช้เพียงน้ำสะอาดแทน หากเป็นไปได้เพื่อลดอาการระคายเคืองของผิวหน้า เลี่ยงการใช้มือสัมผัสเวลาทำความสะอาดหน้า ทาครีมบำรุง ควรใช้เครื่องนวดหน้าคุณภาพมาตรฐานหัวนวดสแตนเลส สตีลคุณภาพสูงแทนการใช้มือสัมผัสผิวโดยตรง เพื่อป้องกันการระคายเคืองกับผิวที่ตอนนี้บอบบางแพ้ง่ายเป็นพิเศษ
3. จนกว่ารอยไหม้จากแดดจะดีขึ้น ลดการใช้เครื่องสำอางต่างๆ ไว้ก่อน สาวๆ หลายคนพอโดนแดดมากๆ ก็มักรู้สึกอยากจะหันไปพี่งเครื่องสำอางจำพวกขาวใสทันที แต่ระหว่างที่ผิวยังอยู่ในสภาพการโดนเผา เครื่องสำอางเหล่านี้อาจจะยิ่งซ้ำเติมรอยแผลและการฟื้นฟูผิวได้ ฉะนั้นอดใจรอให้เวลาผิวได้ปรับตัวให้ดีขึ้นก่อนจะดีกว่า

4. เมื่อรอยไหม้จากแดดดีขึ้นแล้ว เร่งเติมน้ำให้กับผิว หลังจากโดนแดดเผา ปริมาณน้ำใต้ผิวจะลดลงอย่างมาก พอสภาพรอยไหม้เริ่มดีขึ้นระดับหนึ่ง ก็ถึงเวลาที่ต้องเติมน้ำให้กับผิวอย่างเร่งด่วน ลงโทนเนอร์และมอยส์เจอไรเซอร์บำรุงผิวให้มากกว่าปกติเป็น 2 เท่า
แต่เพราะกลไกธรรมชาติแห่งผิวพรรณมักจะตีความสารอาหารบำรุงผิวเป็นสิ่งแปลกปลอม และขัดขวางไม่ไห้สารบำรุงที่ผิวต้องการเข้าสู่ผิว ดังนั้นเราจึงควรหาตัวช่วยที่สามารถผลักครีมบำรุงเข้าสู่ผิวอย่างล้ำลึกและทันทีทันใด ในวงการความงามนิยมใช้เครื่องนวดหน้าผลักครีมเข้าสู่ผิว พร้อมนวดกระตุ้นเซลล์ผิวให้เกิดการยืดหยุ่น ดีทอกซ์ผิวหน้าให้สดชื่น คอยเติมน้ำให้ผิวอย่างเพียงพอ เพื่อเป็นการเพิ่มความแข็งแรงให้คอลลาเจนและอิลาสตินในชั้นผิวได้โดยตรง

5. ขณะที่ผิวกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ให้บำรุงผิวเพิ่มเติม ด้วยโลชั่นหรือเซรั่ม ที่มีความสามารถในการปกป้อง ความชุ่มชื่นในผิวสูง โดยเฉพาะสารบำรุงที่มีส่วนผสมในการช่วยยับยั้งการขยายตัวของเม็ดสีเมลานิน อย่างเช่นส่วนผสมของ Vitamin C หรือว่าผลิตภัณฑ์บำรุงผิวจำพวก Whitening ก็จะช่วยปกป้องการเกิดฝ้าและกระให้กับผิวได้ดีขึ้น โดยใช้ควบคู่กับเครื่องนวดหน้าระบบอัลตร้าโซนิค (เทคโนโลยีคลื่นเสียงความถี่สูง) และกัลวานิคไอออน (ปล่อยประจุไฟฟ้าแบบอ่อนๆ ที่อาศัยการผลักดึงของขั้วบวกและขั้วลบ) เพื่อเปิดรับการกระชับรูขุมขน สู่การผลักสารสำคัญตรงเข้าบำรุงผิวหน้าได้อย่างล้ำลึก พร้อมจะกลับมาแต่งหน้าสวยได้ตามปกติ

7 วิธีรักษาความหล่อให้น่าสนใจ (Men's Health)

ขอบคุณบทความดีๆจาก http://beautyhealth.bonlineshop.com/ << ติดตามเพิ่มเติมได้นะคะ like ให้กำลังใจด้วยนะคะ
7 ขั้นตอนรักษาความหล่อให้เตะตา

สมัยนี้ผู้ชายหลายๆคนเริ่มหันมาสนใจในเรื่องของการดูแลผิวพรรณ สุขภาพความงาม กันมากขึ้น เพื่องความดูดี และเป็นถูกตาถูกใจของคนที่คุณผู้ชายต้องติดต่อด้วย ในวันนี้เรามีทิปเล็กๆน้อยๆ มาและนำกับคุณสุภาพบุรุษทั้งหลายคะ คือ 7 วิธีรักษาความหล่อให้น่าสนใจ


  บำรุงชะลอวัย

          ใครที่รู้ตัวว่าผิวหน้าแห้ง อย่าปล่อยทิ้งไว้นาน เพราะนั่นคือสัญญาณเตือนว่าผิวของคุณกำลังขาดความชุ่มชื่นเสื่อมโทรม และขาดน้ำมันหล่อเลี้ยงผิวตามธรรมชาติ ส่งผลให้เกิดริ้วรอยก่อนเวลาอันควร ทางแก้ง่าย ๆ คือหมั่นทาครีมบำรุงทุกวันเพื่อชะลอริ้วรอยไม่ให้มาก่อนเวลา "ตอนเช้าให้ทาครีมหลังอาบน้ำ เติมระหว่างวันหรือหลังเล่นฟิตเนสเสร็จ"


  เพิ่มความสดชื่นให้ผิวหน้า

          ผู้ชายหลายคนละเลยการล้างหน้า โดยเฉพาะการทำความสะอาดใบหน้าขณะอาบน้ำ บางวันคุณอาจขัดหน้าเบา ๆ ด้วยการใช้สครับ ถูเป็นวงให้ทั่วใบหน้าวิธีนี้จะช่วยขจัดสิ่งอุดตันและเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไป ทำให้คลีนเซอร์หรือโฟมล้างหน้าเข้าไปทำความสะอาดผิวได้อย่างสะอาดหมดจด 

          งานนี้คุณหมอพอล แฟรงค์ ผู้เขียนหนังสือ Tum Back the Clock without Losing Time แนะนำมา จากนั้นซับหน้าหมาด ๆ ก่อนตามด้วยครีมบำรุง "เมื่อคุณขจัดเซลล์ผิวหนังออก น้ำมันหล่อเลี้ยงผิวตามธรรมชาติก็จะถูกขจัดออกไปด้วย จึงเป็นเรื่องจำเป็นที่คุณควรบำรุงผิวอย่างเร่งด่วน" เดนิส วิทิลโล ผู้อำนวยการประจำฟิตเนสแอนด์สปาในนิวยอร์ก กล่าว


  ควบคุมความมันบนใบหน้า

          เริ่มง่าย ๆ ด้วยการใช้ครีมบำรุงผิวที่ปราศจากออยล์ แต่ถ้ารู้สึกว่าหน้ายังมันอยู่อีก เรามีวิธีแอดวานซ์กว่านั้นมาฝาก นั่นคือใช้สบู่หรือโฟมล้างหน้าที่มีกรดซาลิไซลิค ควบคุมความมันหรือใช้ครีมที่มีส่วนผสมของเบนซอยล์เพอร์ออกไซด์ แต่หากความมันได้จู่โจมใบหน้าของคุณเป็นที่เรียบร้อย (สิวขึ้นอย่างเยอะ) เราแนะนำให้กำจัดมันเสียด้วยการมาสก์หน้าอาทิตย์ละครั้งเพื่อเปิดรูขุมขน 

          ลองรินน้ำอุ่นในชามขนาดใหญ่ แล้วอังหน้า (คุณอาจใช้ผ้าขนหนูพันศีรษะเพื่อเก็บเส้นผมไม่ให้ลงมาปรก) ปล่อยให้ไอน้ำเปิดรูขุมขนให้กว้างขึ้น ทิ้งไว้สัก 5 นาทีแล้วค่อยเริ่มขั้นตอนมาสก์หน้า "หากทำอย่างถูกวิธี ผิวของคุณจะกระจ่างใสและรู้สึกได้ว่านุ่มขึ้น" เคล็ดลับนี้แนะนำโดย อีริค รูมี เจ้าของและผู้ก่อตั้ง Nickel Spa SF for Men แถมท้ายให้ว่ามาสก์โคลนยังช่วยดูดซับความมันและไม่ทำให้น้ำมันหล่อเลี้ยงผิวตามธรรมชาติหายไปอีกด้วย


  การกำจัดสิว ต้องแก้ที่ต้นตอ

          หนุ่ม ๆ อย่าหมกมุ่นกับสิวให้มาก เพราะเรื่องสิวเป็นเรื่องจิ๊บ ๆ เพียงล้างหน้าด้วยคลีนเซอร์อ่อน ๆ เป็นประจำทุกวัน เช้า-เย็น เท่านี้ก็ช่วยลดปริมาณสิวได้แล้ว ส่วนความเข้าใจผิด ๆ อย่าการล้างหน้ามากกว่า 4 ครั้งต่อวัน หรือล้างแค่วันละครั้ง ไม่ได้ทำให้สิวหายไป "ยิ่งผิวระคายเคืองมากเท่าไร สิวก็ยิ่งขึ้น" เคนเนธ บิลลินสกี คุณหมอผิวหนัง กล่าว

          การรับมือที่ดีที่สุดคือหาต้นตอการเกิดสิว พยายามควบคุมความมันและขจัดสิ่งสกปรกไม่ให้ติดค้าง ซักปลอกหมอนเป็นประจำและหมั่นทำความสะอาดโทรศัพท์ พยายามอย่าเอามือไปจับหน้าบ่อย ๆ"สิวหัวแข็งคือก้อนไขมันที่ฝังอยู่ได้รูขุมขน และจับตัวกับสิ่งสกปรกจนเกิดเป็นสิวหัวดำ จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเก็บมันไว้" คุณหมอโซเบล กล่าว ลองหาแผ่นลอกสิวมาใช้ รวมถึงหลังอาบน้ำให้ใช้โทนเนอร์ที่มีส่วนผสมของ Hazel เพื่อเอาสิ่งตกค้างจากสบู่ออก


  จัดการกับถุงใต้ตา

          ถุงใต้ตาอาจเป็นผลพวงจากพันธุกรรม แต่อีกปัจจัยสำคัญคือการใช้ชีวิตของคุณนั่นเอง เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่าผิวหนังใต้ดวงตาเป็นบริเวณบางที่สุดในร่างกาย หนาเพียง 0.00079 นิ้วเท่านั้น จึงไม่น่าแปลกใจที่เราจะเห็นเส้นเลือดต่าง ๆ บริเวณนั้นอย่างชัดเจน 

          และเมื่อถุงใต้ตาเริ่มย้อยตามกาลเวลาหรือเส้นเลือดบริเวณนั้นแตก เราจึงเห็นเป็นรอยคล้ำและห้อยย้อยจนยากที่จะหาหางปกปิด ทางแก้ง่าย ๆ คือ ทาด้วยอายครีมและเซรั่ม โดยแตะเบา ๆ (ห้ามถู) รอบดวงตาก่อนนอน ครีมส่วนใหญ่มีส่วนผสมของคาเฟอีนซึ่งช่วยกระชับผิวและปกปิดรอยคล้ำ ส่วนเซรั่มมีสารด้านความชราอย่างวิตามินเอ ซี และอี ที่ช่วยป้องกันการเสื่อมโทรมของเซลล์ผิวเมื่อออกแดด ทั้งสองตัวนี้ จะมอบความชุ่มชื่นและทำให้ริ้วรอยต่าง ๆ จางลง แต่อาจไม่เป็นประโยชน์สำหรับสิงห์อมควัน เนื่องจากบุหรี่เป็นวายร้าย ตัวฉกาจของผิว ทำให้รอยคล้ำเห็นชัดมากขึ้น 

          และควรหลีกเลี่ยงการกินโซเดียม พักผ่อนให้เพียงพอและนอนให้ศีรษะอยู่ในท่าที่ถูกต้อง เลือกใช้หมอนที่ไม่ทำให้ก่อเกิดถุงใต้ดวงตา รวมถึงหาครีมที่มีส่วนผสมของคาเฟอีนมาใช้ แต่ถ้าวันไหนตื่นมาแล้ว พบว่ารอยคล้ำซักกลายเป็นสีฟ้า สงสัยว่าคุณต้องไปพบแพทย์ได้แล้ว เพราะร่างกายของคุณกำลังฟ้องว่าขาดธาตุเหล็ก

  ผลัดเซลล์ผิว

          ข้อดีของการผลัดเซลล์ผิวคือ ขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วมอบความกระจ่างใส ให้ผิวเรียบเนียนสม่ำเสมอ แต่ข้อควรระวังคือ "การผลัดเซลล์ผิวแบบไม่ถูกวิธี นอกจากจะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์แล้ว ยังถือเป็นการทำลายสมดุลบนใบหน้าคุณอีกด้วย" คุณหมอผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง เอมี เวชสเลอร์ กล่าวคนผิวแห้งควรผลัดเซลล์ผิวด้วยแลคติค หรือกรดไกลโคลิค ซึ่งช่วยมอบความชุ่มชื่นให้ผิว

          ส่วนคนที่ผิวมันควรผลัดเซลล์ผิวด้วยไตรคลอโรอะซีติค และกรดซาลิไซลิค เพราะดูดเอาความชุ่มชื่นที่มีมากเกินออกไป ส่วนใหญ่หากเราผลัดเซลล์ผิวเองที่บ้าน มักมีความเข้มข้นของกรดอยู่เพียง 2-3 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ต่างจากสูตรที่ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังเลือกใช้ ซึ่งมีความเข้มข้นสูงถึง 20 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นทางที่ดี หากวันไหนคุณไปผลัดเซลล์ผิวมา พยายามอย่าโกนหนวดหรือขัดหน้าซ้ำอีกรอบ เดี๋ยวจะไปกันใหญ่

  เยอะใช่ว่าจะดีเสมอไป

          ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังส่วนใหญ่มักไม่ค่อยเข้าใจผู้ชาย เพราะพวกเขาคิดว่าเรามีความพยายามมากพอ (หรือไง) กับการดูแลรักษาใบหน้าถึง 6 ขั้นตอนเป็นประจำทุกเช้าเริ่มจากการล้างหน้าด้วยคลีนเซอร์ (อย่าลืมว่าสบู่สร้างความระคายเคืองให้ผิวหน้า) ออยล์ก่อนโกนหนวด เจลโกนหนวด อาฟเตอร์เซฟ เซรั่ม (บำรุงและคืนความชุ่มชื่น) และโลชั่นผสมกันแดด เรารู้ว่าพวกเขาหวังดี ก็ไม่ได้ผิดอะไรถ้าคุณจะทำตามทุกขั้นตอน แต่เอาเข้าจริง ๆ แล้วสิ่งที่ผู้ชายต้องการมีอยู่แค่สองอย่างเท่านั้น นั่นคือคลีนเซอร์และโลชั่น

 
SIAM BEAUTY HEALTH © 2012 | Designed by Rumah Dijual, in collaboration with Buy Dofollow Links! =) , Lastminutes and Ambien Side Effects